400 Bad Request คืออะไร แก้ไขอย่างไร

หลังจากวันก่อนที่เราคุยเกี่ยวกับการนแสดงผลผิดพลาดแบบ 404 File Not Found ไป สำหรับบทความใหม่ในวันนี้เราก็จะมาพูดถึงการแสดงผลผิดพลาดอีกตัวหนึ่ง ที่ชื่อว่า 400 Bad Request กันนะครับ ว่ามันคืออะไร และมีวิธีการแก้ไขอย่างไร

400 Bad Request คืออะไร

400 Bad Request คือ การแสดงผลผิดพลาดแบบหนึ่งในกลุ่ม 4xx family ที่จะแสดงผลในหน้าจอเบราเซอร์ของเราเมื่อเรียกใช้งานเว็บใดเว็บหนึ่ง สาเหตุหลักจะเกี่ยวข้องกับการเรียกหน้าเว็บจากฝั่งผู้ใช้งานที่ผิดพลาด เช่น การพิมพ์ URL ผิด, ไฟล์ใน Cache หรือรูปไฟล์มีขนาดใหญ๋ เป็นต้น

ปัญหา 400 Bad Request
ปัญหา 400 Bad Request

สาเหตุที่ทำให้เกิด 400 Bad Request

พิมพ์ URL ผิด

สาเหตุแรกของการเกิด 400 Bad Request ก็คือ การพิมพ์ URL ผิด หรือ มีอักขระหรือพยัญชนะที่ไม่ถูกหลักการใช้งานใน URL นั้น หรือ การเข้ารหัสของลิงก์ที่เป็นภาษาไทยไม่ถูกต้อง

ยกตัวอย่างเช่น

https://themevilles.com/product/%speed-wordpress-classroom/ 

จากลิงก์ด้านบนจะเห็นว่ามี % ปรากฏอยู่ในลิงก์ ซึ่งเป็นผลให้หน้าดังกล่าวแสดงผลผิดพลาดครับ

ปัญหาจาก Browser Cache และ Cookies

บางครั้ง URL ที่เราพิมพ์ถูกต้องแล้ว แต่ยังเกิดปัญหา 400 Bad Request อยู่ สาเหตุอาจเกิดจากการจำค่าเก่าของ Browser ที่เก็บในรูปแบบของ Cache ครับ ปัญหานี้มักจะเกิดกับหน้าหลังบ้านหรือหน้า Admin ของเรา ที่มีการเก็บข้อมูลการเข้าใจงาน (Login) ตอนหลังสุดที่เราเข้าใช้งานมาใช้งานอีกครั้งหนึ่ง

ปัญหาไฟล์มีขนาดใหญ่

การเกิดปัญหา 400 Bad Request อีกกรณีหนึ่ง เกิดจากขนาดรูปที่มีขนาดใหญ่เกินไปในการอัปโหลดครับ ซึ่งรูปที่เราอัปโหลดขึ้นไปนั้นมีขนาดมากกว่าขนาดไฟล์ที่กำหนดไว้ของเซิฟเวอร์ (File size limit) ซึ่งแต่ละเซิฟเวอร์นั้นอาจจะมีการตั่งค่าที่แตกต่างกันไป

วิธีการแก้ไขปัญหา 400 Bad Request

Step 1. ทำการตรวจสอบ URL ของเราว่า มีการพิมพ์ผิดหรือไม มีอักขระที่ไม่ถูกต้องผสมอยู่ใน URL ดังกล่าวหรือไม่ ถ้ามีให้เอาออกแล้วทำการทดสอบใหม่อีกครั้ง

Step 2. ทำการเคลียร์ Browser Cache โดยไปที่จุดสามจุดด้านขวาบน Chrome ของเรา แล้วไปที่ More tools > Clear browsing data.. เมื่อกดเข้าไปแล้วให้ทำเครื่องหมายถูกหน้าช่อง Cache images and files และ Cookies and other site data แล้วทำการกดปุ่ม Clear data ครับ

การเคลียร์ Cache และ Cookies
การเคลียร์ Cache และ Cookies

Step 3. ในกรณีที่รูปของเรามีขนาดใหญ่กว่าขนาดที่เว็บไซต์ระบุให้อัปโหลด ให้เราทำขนาดรูปให้เล็กลง เราสามารถทำการบีบอัดไฟล์รูปที่มีขนาดใหญ่เพื่อทำให้มีขนาดเล็กลงได้ด้วย เช่น เว็บ Tinyjpg หรือ Tinypng เป็นต้น

หากเรายังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ อาจจะเกิดจากเรื่อง DNS Lookup Cache และปัญหาอื่นๆ ได้ ในกรณีนี้อาจจะต้องติดต่อผู้พัฒนาเพื่อหาทางแก้ไขต่อไปครับ

ปรึกษาด้านเว็บไซต์
รับแก้ปัญหาเว็บไซต์